วันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2560

พรหมพิราม



     อ.พรหมพิราม เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก เป็นอำเภอที่หลายๆคนอาจจะไม่เคยได้ยิน แต่ถ้าเป็นเรื่องราวของ "คดีพรมหมพิราม" เชื่อว่าต้องมีหลายๆคนที่เคยได้ยินและรู้สึกหดหู่ทุกครั้งที่นึกถึง 






     ต้องย้อนกลับไปในเมื่อหลายปีก่อนในปี 2520 หนังสือพิมพ์ได้ตีข่าวเล็กๆเกี่ยวกับคนโดนรถไฟทับ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เคยได้ยินอยู่บ่อยครั้งและเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้บ่อย แต่เมื่อมีการตั้งข้อสังเกตของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า หญิงที่เสียชีวิตไม่ได้เป็นคนต่างถิ่นแต่ทำไมถึงมาเสียชีวิตที่นี้ และไม่มีญาติมาร้องทุกข์เลย จากนั้นเมื่อทำการชันสูติพริกศพดูก็พบกับหลักฐานที่น่าตกใจ
  



     "เธอโดนข่มขืน"เมื่อพบหลักฐานเพิ่มขึ้น หนังสือพิมพ์ก็เริ่มตีข่าวจากข่าวอุบัติเหตุเล็กๆกลายเป็นคดีใหญ่ขึ้นมาทันที่ ตำรวจได้สิบสวนหาสาเหตุที่เกิดขึ้นก็พบว่า เธอเป็นคนที่บางกระทุ่ม มีลูกชาย 1 คนกำลังเดินทางไปหาสามีแต่ไม่มีเงินค่ารถไฟจึงโดนไล่ลงจากรถไฟ เมื่อเวลาใกล้ค่ำลงมีผู้ชายสูงอายุมาชวนให้เธอไปพักที่บ้านท้ายหมู่บ้านประกอบกับเธอไม่มีญาติอยู่ที่นี้ เธอจึงตกลงไปกับชายสูงอายุ ต่อมาชายคนดังกล่าวได้ขอตัวไปทำธุระทิ้งให้เธออยู่บ้านคนเดียว จากนั้นมีวัยรุ่นมาเสพกัญชาบริเวณนั้นพบว่าเธออยู่คนเดียว จึงบุกเข้าไปและลงมือข่มขืนเธอทั้งกลุ่ม






     ในช่วงนั้นภายในหมู่บ้านมีงานรื่นเริง ข่าวที่บอกว่ามีไก่หลงหรือหญิงสาวที่พลัดหลงมาที่บ้านท้ายหมู่บ้านจึงกระจายไปทั่ว พวกเดนมนุษย์หรือปีศาจได้รวมตัวกันมาที่เธอ เธอโดนข่มขืนครั้งไม่ถ้วนจากฝีมือคนที่ไร้จิตสำนึกและความเป็นมนุษย์ ทั้งในแคร่ บนพื้นดิน บนหนองน้ำ เธอหนีอย่างไม่คิดชีวิตไปที่สถานีรถไฟเพื่อออกจากนรกตรงนี้ แต่เธอก็ไปไม่ถึงพวกมันได้พากันทำร้ายเธอคนสลบไป และได้เอาเธอไปให้สัปเหร่อเผาอย่างรีบเร่งภายในตอนนั้น แต่เธอฟื้นขึ้นมาพวกมันก็ข่มขืนเธอต่อตรงที่เผาศพ คนร้ายที่ลงมือกลัวความผิดจึงเอาศพมานอนที่รางรถไฟ เพื่อให้รถไฟทับบริเวณอวัยวะเพศเพื่อทำลายหลักฐาน
  


     วันต่อมามีคนพบศพจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ข่าวขึ้นหน้าหนึ่งทุกวันในช่วงนั้น ในการทำงานของเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีคนให้ความร่วมมือเท่าไหร่ ต่างพากันพยายามเบี่ยงเบนประเด็น แต่ก็ไม่เกินความสามารถของตำรวจและเมื่อสอบสวนจนต้องตกใจว่าผู้ร้ายที่ลงมือมีมากมายในตอนแรกมีแค่17คน และทำการสอบสวนเพิ่มเติมจนมีคนร้ายสรุปมากถึง30คน คนร้ายที่ลงมืออายุน้อยที่สุดคือ 9 ปีส่วนคนร้ายที่ลงมืออายุมากที่สุดคือ 65 ปี นี้เป็นคดีอาชญากรรมทางเพศที่มีผู้ร้ายมากที่สุดในประเทศไทย 




     คนที่ลงมือข่มขืนคนสุดท้ายสารภาพว่าข่มขืนไปแล้ว1ครั้ง เธอลงไปล้างเลือดที่บ่อน้ำ จำเลยตามไปข่มขืนอีกเธอถามว่า "ไม่พออีกหรือ" และพยายามขัดขืน จึงจับเธอพิงกับโคนต้นไม้พร้อมลงมือข่มขืนและบีบคอไปด้วย เธอเสียชีวิตในที่สุด 

      ต่อมาก็มีการนำเอาไปสร้างเป็นภาพยนต์ เขียนบทและกำกับโดยมานพ อุดมเดช อำนวยการสร้างโดยหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล เปลี่ยนมาถ่ายทำที่จังหวัดอุทัยธานีเพื่อลดกระแสความขัดแย้ง ช่วงแรกใช้ชื่อว่า"คนบาปพรหมพิราม" แต่โดนประท้วงจากคนในพื้นที่จึงต้องเปลี่ยนมาเป็น "คืนบาปพรหมพิราม"






     หนังเรื่องนี้ได้รับรางวัลมากมาย จากรางวัลภาพยนต์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ 2546




อ้างอิง : https://board.postjung.com,www.siamzone.com,pantip.com,http://thaiinfonet.com/,https://th.wikipedia.org/wiki/คืนบาป_พรหมพิราม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น